
วันนี้ (10 เดือนตุลาคม64 ) นิด้าโพล เผยผลที่เกิดจากการสำรวจสะท้อนสิ่งที่ต้องการผู้คนตามกระแสการบ้านการเมือง ต้องการให้“ลุงตู่” ยุบสภาอย่างรวดเร็วเพื่อมี “การเลือกตั้ง” ในช่วงเวลาที่ที่ผ่านมา “อีสานโพล” ก็เผยแพร่ผลที่เกิดขึ้นจากการสำรวจออกมาอีก ถ้าเกิดมี “ออกเสียง” วันนี้อยากได้คนไหนกันเป็นนายกรัฐมนตรี
จับอาการของ”สำนักโพล”ต่างๆ ที่มีต่อสถานการณ์ทางการเมือง ก็ดูไม่ต่างกับ การลงพื้นที่ของหลายพรรคการเมืองในช่วงนี้ ส.ส.แทบทุกคนอ้างว่าเพื่อเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัยและมอบสิ่งของที่จำเป็นรวมทั้งฟังปัญหาเพื่อนำมาแก้ไข
แต่โดยนัยที่แท้จริงแล้ว ตอนนี้คือช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร เวลานี้คือเวลาที่กฎหมายเปิดทางให้ส.ส.ไปพบประชาชนเพื่อนำปัญหามาอภิปรายในสภาผู้แทนฯให้G2GBETหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแก้ไข และหาแต้มสะสมไว้เป็นต้นทุนว่านักการเมืองคนนี้ไม่ทอดทิ้งและขอโอกาสทำงานเพื่อบ้านเกิด…หากต้องเกิดการเลือกตั้งในวันข้างหน้า
บวกกับตอนนี้ใกล้เลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) ราว 5,300 แห่ง ทั่วประเทศใน วันที่ 28 พ.ย. 2564 หลังจากมีการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2563 และเลือกตั้งเทศบาลที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2564
ดังนั้นการลงพื้นที่ช่วงสูญญากาศการเมืองท้องถิ่นสนามนี้(กกต.เปิดรับสมัครเลือกตั้งอบต.ระหว่างวันที่ 11-15 ต.ค.2564)นั้น จะเป็นการหาเสียงให้ทีมงานของส.ส.และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ไปกลายๆเพื่อให้ได้รับเลือกตั้ง เพราะอย่าลืมว่าอบต.นั้นคือเซลล์เล็กสุดที่เป็นฐานคะแนนของนักการเมือง เนื่องจากใกล้ชิดชาวบ้านมากที่สุด หากคนในเครือข่ายได้รับความไว้วางใจ โอกาสทางการเมืองบนสนามผู้แทนราษฎรของใครหลายคนก็จะง่ายขึ้น
อย่างไรก็ดี แม้โพลตั้งโจทก์นำมาสู่คำตอบจากประชาชนเร่งเร้าให้ยุบสภา มีการเลือกตั้ง
แต่ตอนนี้หลายคนน่าจะคลายข้อสงสัยว่าจะยุบสภาเมื่อใด เพราะ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรียืนยันแล้วว่ายังไม่มีการยุบสภาในตอนนี้ (เพราะเดือนธ.ค.ปีนี้-ธ.ค.ปีหน้า ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปก ดังนั้นโอกาสยุบสภาน่าจะมีขึ้นหลังการประชุมเสร็จสิ้น) ยิ่งคำประกาศล่าสุดด้วยแล้ว “ขอเวลา 5 ปีพลิกฟื้นประเทศ”
“…ทุกอย่างต้องใช้เวลาและต้องแก้ไขทั้งหมด ผมคิดว่าใน 5 ปีข้างหน้าหลายอย่างต้องดีขึ้นจากโครงสร้างที่ทำใหม่ทั้งหมด เหลือเพียงว่าคนจะเข้าถึงได้อย่างไร”
ตอนหนึ่งของคำปราศรัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 64
แต่ตามวิสัยนักการเมืองนั้น ถือคติว่าอะไรที่แน่นอน ย่อมไม่แน่นอน
กลับมาพิเคราะห์ ประเด็นนี้ก่อน กรณี ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ อีสานโพล (E-Saan Poll) เปิดผลการสำรวจชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจคือ วาระ“ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ ท่านอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ”
พบว่า อันดับหนึ่ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 24.0 อันดับสองนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 23.0 อันดับสาม หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 22.1 อันดับสี่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 14.6
อันดับห้า นายอนุทิน ชาญวีรกุล ปริมาณร้อยละ 7.8 อันดับหก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จำนวนร้อยละ 2.7 อันดับเจ็ด พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ปริมาณร้อยละ 2.1 อันดับแปด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ปริมาณร้อยละ 0.4 และก็อื่นๆจำนวนร้อยละ 3.3
Be the first to comment