
พล.ตำบลอำเภอสุชาติ กล่าวมาว่า คดีของ พันตำรวจเอกธิติสรรค์ มีด้วยกันทั้งผอง 4 คดี ถึงปัจจุบันนี้พวกเรามีหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดได้แน่ๆ โดยยิ่งไปกว่านั้นคดีฝึกทรมาทรกรรมผู้ต้องหาจนกระทั่งแก่ชีวิต ที่รุดหน้าไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ไม่น่าเกินเดือน พฤศจิกายนนี้ก็คงจะสามารถสรุปสำนวนส่งอัยการพินิจได้
ส่วนเรื่องคดีสินบนนำจับรถหรู ตรวจสอบพบว่า ผกก.โจ้ เกี่ยวข้องกับจับกุมรถหลบเลี่ยงเสียภาษี จำนวน 410 คัน พบข้อมูลเป็นรถแจ้งหายไว้ที่ต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย และ สิงค์โปร์ รวม 270 คัน แบ่งเป็นรถที่ถูกแจ้งหายก่อนตรวจยึด 101 คัน และรถที่แจ้งหายหลังถูกตรวจยึด 169 คัน ที่เหลืออีก 140 คัน ยังไม่พบแหล่งที่มา และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวต่อว่า คดีรถหรูทั้งหมดนั้นเกี่ยวข้องG2GBETกับเรื่องผิดกฎหมายแน่นอน เพราะวิธีการจับกุมที่ไม่ชอบ โดยมีการยึดก่อนที่รถจะผ่านเข้าประเทศด้วยซ้ำ และยังพบพิรุธอีกหลายประเด็น รถเหล่านี้ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติเป็นคนนำเข้ามา ก่อนจะเดินทางกลับด้วยสายการบิน ซึ่งในส่วนนี้ได้มอบหมายให้ทาง สตม. เร่งตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดว่า บุคคลดังกล่าวนำรถเข้ามาในประเทศแล้วกี่คัน เป็นรถคันใดบ้าง เพื่อให้หลักฐานมีความแน่นหนา จึงมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิด ผกก.โจ้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แน่นอน เพียงแต่ขอเวลารวบรวมข้อมูลจากกรมศุลกากรและสถาบันการเงินก่อน
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวต่ออีกว่า พนักงานสอบสวนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับรถทั้ง 410 คัน จากทางศุลกากรค่อนข้างมาก ตั้งแต่การเข้ามาของรถ คนใดเป็นคนนำเข้ามา คนไหนกันเป็นนอไม่นี แล้วก็คนใดกันได้ประโยชน์จากประเด็นนี้ ทางตำรวจมีข้อมูลหมด แม้กระนั้นไม่สามารถที่จะเผยได้ ส่วนกรอบของเวลาสำหรับเพื่อการสรุปหัวข้อนี้ ยังคงไม่สามารถที่จะกำหนดให้แจ้งชัดได้ เนื่องจากว่าเนื้อหาออกจะมากมาย
Be the first to comment