
นางสาวธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันสนับสนุนการวิเคราะห์แล้วก็บริหารBig dataภาครัฐ (GBDi) พูดว่า ได้ร่วมกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT จากการผลักดันและส่งเสริมงบประมาณโดยกองทุนปรับปรุงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดตัวระบบเชื่อมโยงข้อมูลเรื่องราวรักษาคนไข้ทั่วประเทศในชื่อ “Health Link” ขึ้น ภายหลังที่ทดสอบให้บริการในกลุ่มผู้เจ็บป่วยวงจำกัดราว 100,000 คน มาระยะหนึ่งแล้ว โดยปัจจุบันนี้มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ทั้งยังภาครัฐแล้วก็เอกชนร่วมโครงงานแล้ว 100 ที่ เช่น รพ.ศิริราช โรงพยาบาลจุฬา โรงพยาบาล รามาหัวหน้า โรงพยาบาลวชิระ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลพระมงกุฎ โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชความเมตตา แล้วก็เครือ โรงพยาบาลกรุงเทพ รวมทั้งมีเป้าหมายขยายเพิ่มเติม 100 ที่ด้านในปี 2565 จากปริมาณโรงพยาบาลทั่วราชอาณาจักรทั้งผอง 1,400 ที่ SLOTXO
น.ส.ธีรณี กล่าวว่า ระบบเชื่อมโยงข้อมูลผู้เจ็บป่วยจะช่วยสนองตอบการส่งข้อมูลผู้เจ็บป่วยให้ถึงมือแพทย์ได้อย่างเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่แพทย์อยู่ต่างโรงหมอกัน ลดภาระหน้าที่แล้วก็ค่าใช้สอยสำหรับในการตรวจผลแล็บซ้ำไปซ้ำมาในกรณีผู้เจ็บป่วยรักษาหลายโรค หลายโรงพยาบาล และก็ที่สำคัญช่วยส่งเสริมการแพทย์ระยะไกล (Telemedicine) ที่เปลี่ยนเป็นเรื่องสำคัญในสมัยโควิด โดยในเฟสแรกบริการ “Health Link” ยังเป็นบริการที่ไม่ต้องจ่ายเงิน
ดังนี้ เพราะได้ทุนช่วยเหลือจากเมือง แต่ว่าในระยะยาวกำลังหารูปแบบธุรกิจที่ทำให้อยู่รอดได้ และก็ในเฟสถัดไปมีแผนการขยายบริการไปสู่ผู้เจ็บป่วยที่ปราศจากความพร้อมทางด้านเทคโนโลยี โดยคนป่วยบางทีอาจสามารถให้การยินยอมให้มีการเปลี่ยนเรื่องราวรักษาผ่านทางเคาน์เตอร์โรงพยาบาลที่ผู้เจ็บป่วยรักษาตัวอยู่
ด้านนายวงกต วิจักขณ์สังข์สิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจ NT บอกว่า ผู้พอใจใช้บริการ Health Link สามารถสมัครใช้บริการผ่านทางแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพื่อมีการรับรองตัวตน ส่วนเรื่องความปลอดภัยในข้อมูลนั้น รับรองได้ว่าเป็นไปตามมาตรฐานโลกปัจจุบันที่มีการใช้กันอยู่
“ระบบ Health Link ได้รับการพัฒนาอยู่บนคลาวด์ของ NT ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัย ISO 27001 และ CSA STAR การเชื่อมโยงข้อมูลจะเกิดก็ต่อเมื่อผู้สนใจสมัครใช้งานและยินยอมให้โรงพยาบาลส่งข้อมูลประวัติการรักษาของตนเองเข้าระบบเท่านั้น โดยข้อมูลจะมีการเข้ารหัสในการจัดเก็บเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล ดังนั้น แม้ข้อมูลถูกเจาะ ผู้เจาะจะไม่สามารถอ่านข้อมูลได้อยู่ดี เพราะถูกเข้ารหัสไว้อีกชั้น และผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จะต้องเป็นแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภาและปฏิบัติงานในโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น อีกทั้ง Health Link ยังรองรับการตรวจสอบย้อนหลังการใช้งานที่เกิดขึ้นบนระบบได้ด้วย”.
Be the first to comment