
รอยเตอร์สรายงานผลของการทดลองสมรรถนะพื้นฐานพบว่า Sputnik Light วัคซีนโควิด-19 จำพวกฉีดเข็มเดียวของรัสเซียมีคุณภาพสำหรับในการต้านทานโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาอยู่ที่ 70% ข้างหลังได้รับวัคซีนไปแล้ว 3 เดือนและมีแนวโน้มที่รัสเซียจะใช้เป็นวัคซีนหลักของประเทศ
โดยกองทุนความมั่งคั่งของรัสเซีย (RDIF) ผู้เจรจาจัดจำหน่ายวัคซีนดังกล่าวอ้างถึงข้อมูลจากสถาบันกามาเลยาผู้ผลิตวัคซีน ซึ่งได้เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ทางการแพทย์ medRxiv ระบุว่า การทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 28,000 ที่ได้รับวัคซีน Sputnik Light และG2GBETกลุ่มควบคุมซึ่งยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจำนวน 5.6 ล้านคน
ซึ่งพบว่าวัคซีน Sputnik Light มีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อสายพันธุ์เดลตาอยู่ที่ 70% หลังฉีดไปแล้ว 3 เดือน สำหรับการใช้ Sputnik Light เป็นวัคซีนกระตุ้นให้ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนชนิดอื่นครบโดสแล้วพบว่า มีประสิทธิภาพต่อเชื้อเดลตาอยู่ที่ 83% และสามารถป้องกันอาการป่วยรุนแรงได้มากกว่า 94%
ทั้งนี้ รัสเซียกำลังเผชิญกับผู้ติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นและความลังเลใจของประชาชนในการเข้ารับการฉีดวัคซีน ขณะที่ทางการกำลังพยายามลงแข่งขันในตลาดวัคซีนของตะวันตกที่พัฒนาโดย Pfizer, Moderna และ AstraZeneca
โดย RDIF คาดว่าจะสามารถผลิตวัคซีน Sputnik V และ Sputnik Light ให้เพียงพอสำหรับประชากร 700 ล้านคนภายในปีนี้ โดยต้องการส่วนแบ่งไม่เกิน 20% ถึง 25% ของตลาดโลก และไม่ต้องการผูกขาดตลาด
RDIF หวังว่าวัคซีนดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นจะได้รับอนุมัติจากหน่วยงานยาที่สหภาพยุโรป(EMA) รวมทั้งองค์การอนามัยโลก (WHO) ข้างในปลายปีนี้ภายหลังที่ชักช้ามานานยาวนานหลายเดือน
Be the first to comment