สลด พยาบาลติดโควิดดับ ทั้งที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว

วันที่ 13 เดือนตุลาคม64 ศูนย์บริหารเหตุการณ์โควิด 19 (ศบค.) เผยแพร่ข้อมูลเหตุการณ์โควิด 19 ทุกวันว่า วันนี้เมืองไทยมีผู้ติดโรคใหม่ 10,064 ราย สะสม 1,740,428 รายหายป่วย 10,988 ราย สะสม 1,615,343 ราย เสียชีวิต 82 ราย สะสม 17,917 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 107,168 ราย อยู่ใน รพ. 39,529 ราย รพ.สนามและอื่นๆ 67,639 ราย มีอาการหนัก 2,941 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 669 ราย

ภาพรวมผู้ติดเชื้อวันนี้มาจาก 67 จังหวัดรวมกันสูงสุด 5,924 ราย กทม.และปริมณฑล 2,045 ราย 4 จังหวัดภาคใต้ 1,968 ราย เรือนจำ 118 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศมี 9 ราย ได้แก่ อิสราเอล 2 ราย รัสเซีย 4 ราย และกัมพูชา 3 ราย (ช่องทางธรรมชาติ 2 ราย)

เสียชีวิต 82 ราย

ผู้เสียชีวิต 82 ราย มาจาก 33 จังหวัด ได้แก่ กทม. 14 ราย , สมุทรปราการ 9 ราย , ชลบุรี 7 ราย , นราธิวาส 5 ราย , สมุทรสาคร พัทลุง สระบุรี จังหวัดละ 4 ราย , นครศรีธรรมราช สตูล จังหวัดละ 3 ราย , ร้อยเอ็ด เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ภูเก็ต กาญจนบุรี จังหวัดละ 2 ราย และ นครปฐม มหาสารคาม สกลนคร อุดรธานี ตาก แม่ฮ่องสอน สุราษฎร์ธานี กระบี่ ระนอง จันทบุรี นครนายก พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ระยอง ราชบุรี สระแก้ว สมุทรสงคราม อ่างทอง และอุทัยธานี จังหวัดละ 1 ราย

สลดพยาบาลติดเชื้อดับ

ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 42 ราย หญิง 40 ราย อายุ 17 – 92 ปี ค่ากลางอายุ 72 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 66 ราย คิดเป็น 81% อายุต่ำกว่า 60 ปี มีโรคเรื้อรัง 10 ราย คิดเป็น 12% รวม 2 กลุ่มนี้สูง 93% อายุน้อยกว่า 60 ปีไม่มีโรคเรื้อรัง 5 ราย คิดเป็น 6% และ พยาบาลหญิง 1 ราย จ.ระยอง อายุ 45 ปี มีโรคอ้วนและโรคความดันโลหิตสูง ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ที่กำหนด คิดเป็น 1%

10 จว.ติดเชื้อสูง ชายแดนใต้ พรึ่บ

ภาพรวมการติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 7 วัน โดยจังหวัดที่ติดเชื้อเกิน 100 รายมี 33 จังหวัด โดย 10 อันดับที่ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 1,142 ราย สะสม 382,538 ราย 2.ยะลา 650 ราย สะสม 31,269 ราย 3.สงขลา 475 ราย สะสม 36,313 ราย 4.สมุทรปราการ 453 ราย สะสXOSLOTม 116,952 ราย 5.ชลบุรี 442 ราย สะสม 94,892 ราย

6.ปัตตานี 423 ราย สะสม 27,039 ราย 7.นราธิวาส 420 ราย สะสม 29,747 ราย 8.ระยอง 326 ราย สะสม 36,276 ราย 9.จันทบุรี 311 ราย สะสม 14,427 ราย และ 10.นครศรีธรรมราช 264 ราย สะสม 20,150 ราย

สำหรับ 23 จังหวัดที่เหลือ ได้แก่ ตาก 238 ราย , สุราษฎร์ธานี 218 ราย , เชียงใหม่ 214 ราย , ปราจีนบุรี 192 ราย , สระบุรี 188 ราย , อุดรธานี 181 ราย , ตรัง 170 ราย , นนทบุรี 165 ราย , ภูเก็ต 165 ราย , ราชบุรี 157 ราย , ขอนแก่น 153 ราย

นครราชสีมา 153 ราย , กระบี่ 142 ราย , สระแก้ว 142 ราย , ชุมพร 140 ราย , พัทลุง 129 ราย , ปทุมธานี 124 ราย , ฉะเชิงเทรา 118 ราย , ประจวบคีรีขันธ์ 118 ราย , กาญจนบุรี 116 ราย , นครสวรรค์ 107 ราย , ตราด 101 ราย และสมุทรสาคร 100 ราย

18 จว. ติดต่ำกว่า 20 ราย

ขณะที่ติดเชื้อต่ำกว่า 20 ราย มี 18 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด 19 ราย , อ่างทอง 15 ราย , อุทัยธานี 15 ราย , ลำปาง 15 ราย , ลำพูน 14 ราย , อุตรดิตถ์ 14 ราย , อำนาจเจริญ 14 ราย , สกลนคร 10 ราย , ชัยนาท 9 ราย , สิงห์บุรี 9 ราย , ยโสธร 7 ราย , หนองคาย 6 ราย , พะเยา 4 ราย , บึงกาฬ 4 ราย , นครพนม 3 ราย , แพร่ 2 ราย , มุกดาหาร 1 ราย , และน่าน 0 ราย

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 12 ต.ค. ฉีดเพิ่มขึ้น 962,558 โดส สะสม 61,995,809 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 35,895,984 ราย คิดเป็น 49.8% ของมวลชน เข็มสอง 24,282,686 ราย คิดเป็น 33.7% ของพลเมือง แล้วก็เข็มสาม 1,817,139 ราย คิดเป็น 2.5% ของประชาชน

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*