
วันนี้ 9 เดือนตุลาคม64 นายพงษ์ศักดิ์ ฤทธิสมิต ผู้อำนวยการที่ทำการชลประทานที่ 13 ต.ม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวมาว่า ตอนวันที่ 8 เดือนตุลาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา ที่ทำการชลประทานที่ 13 ได้มีหนังสือที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์0322-2564 ถึงผู้ว่าจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ว่าจังหวัดราชบุรี รวมทั้งข้าหลวงประจำจังหวัดจังหวัดสมุทรสงคราม เรื่องขอแจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนแม่กลอง
ทั้งนี้เนื่องจาก ตามประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติฉบับที่ 21/2564 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2564 เรื่อง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน จากการคาดการณ์สภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่ามีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีกำลังค่อนข้างแรง ในช่วงวันที่ 6-8 ตุลาคม 2564
ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคใต้ฝั่งตะวันตก กองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากผลคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันในช่วงระหว่างวันที่ 6-10 ตุลาคม 2564
ทั้งนี้ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในพื้นที่ตอนบนของจังหวัดกาญจนบุรี มีฝนตกG2GBETอย่างต่อเนื่องส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำแม่กลองเป็นจำนวนมาก เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนแม่กลองเป็นไปตามเกณฑ์ควบคุม
สำนักงานชลประทานที่ 13 จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนแม่กลองในปริมาณมากกว่า 800 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแม่กลองด้านท้ายเขื่อนแม่กลอง มีระดับเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจึงขอประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งเตือนให้จังหวัดได้รับทราบและขอความกรุณาแจ้งให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานดูแลส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบกิจการตลอดจนพสกนิกรที่อาศัยริมน้ำแม่กลอง รอบๆที่ลุ่มต่ำ ที่บางทีอาจได้รับผลพวงจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงมากขึ้นดังที่กล่าวถึงแล้ว ได้วางแผนเฝ้าระวังแล้วก็ติดตามข้อมูล เหตุการณ์น้ำจากหน่วยงานของรัฐอย่างใกล้ชิด
Be the first to comment