
รอยเตอร์สอ้างรายงานของสื่อแคว้นประเทศญี่ปุ่นบอกว่า กระทรวงศึกษาธิการประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยผลที่ได้รับจากการสำรวจพบว่าในตอนเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งนำมาซึ่งการทำให้ควรมีการปิดสถานศึกษานั้นมีเด็กญี่ปุ่นตั้งแต่ระดับประถมศึกษาไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายฆ่าตัวตายไปแล้ว 415 คน
รายงานระบุว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบ 100 คน และเป็นตัวเลขที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1974
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีสถิติการฆ่าตัวตายมากที่สุดในกลุ่มประเทศ G7 มาเป็นเวลานาน และได้พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งส่งผลให้อัตราการฆ่าตัวตายลดลงประมาณ 40% ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา และลดลงอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2009
ทว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้อัตราการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยช่วงเดือนก.ค. ถึงเดือนต.ค. ปีที่แล้ว อัตราการปลิดชีวิตตัวเองของชาวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งXOSLOTในกลุ่มผู้หญิงซึ่งเพิ่มขึ้น 37% หรือเกือบ 5 เท่าของผู้ชาย
เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่แรงงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ผู้หญิงที่เป็นแม่ที่ทำงานนนอกบ้านมีภาระเพิ่มขึ้น และเกิดความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การศึกษายังพบอีกว่าอัตราการฆ่าตัวตายของเด็กเพิ่มขึ้น 49% ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดระลอกที่สองในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศ
โดยกระทรวงศึกษาธิการเผยว่ามีเด็กนักเรียนมากกว่า 196,127 คนที่ขาดเรียนเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน ซึ่งข้าราชการกล่าวว่าการที่สิ่งแวดล้อมในบ้านแล้วก็สถานที่เรียนเปลี่ยนไป สาเหตุจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลเสียต่อความประพฤติของเด็กเป็นอย่างยิ่ง
Be the first to comment