“โมเดอร์นา” แจงอาการจาก mRNA เกิดน้อยมาก

ตอนวันที่ เดือนตุลาคม บริษัทโมเดอร์นา ออกรายงานว่าด้วยอุบัติการณ์การเกิดภาวการณ์กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และก็เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ออกในวันที่ 7 ตุลาคม 64 กล่าวว่า บริษัทโมเดอร์นามีความประจักษ์แจ้งถึงประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขของประเทศ เดนมาร์ค ประเทศสวีเดน รวมทั้งประเทศฟินแลนด์ที่ชี้แนะให้มีการหยุดฉีดยาคุ้มครองปกป้อง COVID-19 และฟินแลนด์ที่แนะนำให้มีการหยุดฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ของบริษัทโมเดอร์นาเป็นการชั่วคราว ในกลุ่มประชาชนที่อายุตั้งแต่ 18 ปีลงมา ในประเทศเดนมาร์ค และ กลุ่มประชาชนอายุตั้งแต่ 30 ปีลงมา ในส่วนของประเทศ สวีเดน และ ฟินแลนด์

สำหรับบริษัทโมเดอร์นาแล้ว ความปลอดภัยของผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง เรามีความมุ่งมั่นที่จะหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งนับตั้งแต่มีการระบาดมาจนถึงเวลานี้ได้ส่งผลกระทบต่อประชากรทั่วโลก และคร่าชีวิตคนไปแล้วกว่า 4 ล้านราย

ทางบริษัทโมเดอร์นาเองมีความตระหนักดีถึงโอกาสการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจ/เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบภายหลังจากการได้รับวัคซีนประเภท mRNA ซึ่งภาวะดังกล่าวมีอุบัติการณ์การเกิดน้อย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมีอาการไม่มากและหายได้เองภายในเวลาในระยะเวลาอันสั้นภายหลังจากการได้รับการรักษาและการพักผ่อนที่เพียงพอ อนึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าหากมีการติดเชื้อ COVID-19 ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจ และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจะเพิ่มสูงขึ้น

ดังนั้นการได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อจึงเป็นแนวทางXOSLOTป้องกันการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าวที่ดีที่สุด จากข้อมูลการวิเคราะห์ล่าสุดในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเครือข่าย US Vaccine Safety Datalink (VSD) จากจำนวนประชากร 6.2 ล้านคนที่ได้รับวัคซีน mRNA นั้นไม่พบว่ามีการบ่งชี้ถึงความปลอดภัยที่เปลี่ยนแปลงไป ภายหลังจากการได้รับวัคซีน mRNA ชนิดใดๆ ก็ตาม นอกจากนี้แล้ว รายงานจากการวิจัยผ่านทางเครือข่าย Kaiser Permanente จากจำนวนคนที่ได้รับวัคซีนมากกว่า 2.3 ล้านราย ก็พบจำนวนของผู้ที่เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจ/เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเพียง 15 รายในผู้ที่ได้รับวัคซีน mRNA ทั้งหมด โดยคิดเป็นอัตราอุบัติการณ์การเกิดภายหลังจากได้วัคซีนเข็มที่สอง ที่ 5.8 รายต่อ ล้านโดส

วัคซีน COVID-19 ของบริษัทโมเดอร์นาในนาม Spikevax เป็นวัคซีนที่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีประโยชน์และประสิทธิภาพเป็นที่ประจักษ์ ประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 ในระดับที่สูงมากก็เป็นที่ประจักษ์ทั้งในการนำมาใช้จริงในกลุ่มประชากรขนาดใหญ่ นอกเหนือจากรายงานผลการวิจัยทางคลินิคระยะที่ 3 จาก COVE study ที่มีมาก่อนหน้านี้ ทางบริษัทมีความเอาจริงเอาจังที่จะทำเฝ้าระวังติดตามข้อมูลความปลอดภัยในสินค้าทุกแบบอย่างอย่างใกล้ชิดทั้งยังในระยะที่ตัวสินค้าเองกำลังอยู่ในกรรมวิธีทำการค้นคว้าในคนดีแล้ว รวมทั้งเมื่อถูกมาใช้งานจริง

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*