
“ไฟเซอร์เด็กนักเรียน” วัคซีนโควิด-19 ที่ผู้เรียนจำเป็นต้องได้รับ เปลี่ยนเป็นข้อแม้หนึ่งของการเปิดเทอมเต็มต้นแบบ หรือเปิดภาคเรียนแบบOn-Site ปัจจุบัน พบว่ามีโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร(กทม.)ไม่มีวัคซีนฉีดให้นักเรียนตามกำหนด
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 นายแพทย์ พณะ จันทรกมล รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ส่งหนังสือเรื่อง ขอเลื่อนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ของนักเรียน ส่งถึงผู้อำนวยการ โดยพบว่า มีการเลื่อนฉีดไปถึง 13 โรงเรียนด้วยกัน
โดยข้อความระบุว่า เนื่องจากรัฐบาลได้กำหนดให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์กับนักเรียน อายุตั้งแต่ 12-18 ปี และโรงพยาบาลได้ดำเนินการร่วมกับภาครัฐ เพื่อจัดสรรให้บุคลากรได้เข้าไปฉีดวัคซีน กับโรงเรียนต่างๆ และได้นัดหมายวันเวลา ในการฉีดวัคซีนเรียบร้อย
แต่พบว่า วันที่ 14 ตุลาคม 2564 เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ได้รับแจ้งจากสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ว่า ขอเลื่อนการส่งวัคซีนไฟเซอร์ให้กับทางโรงพยาบาลโดยไม่มีกำหนด หากวัคซีนมาถึงจะจัดสรรให้โรงพยาบาลนำไปฉีดนักเรียนทันที
สำหรับโรงเรียนที่มีรายชื่อเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อน 13 โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือโรงเรียนกทม.มีดังนี้
แหล่งข่าวระดับสูงจากกรุงเทพมหานคร เปิดเผย “คมชัดลึกออนไลน์” น่าเป็นห่วง1พฤศจิกายน นี้เปิดประเทศ แต่นักเรียนส่วนมากยังไม่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ตามที่กำหนดไว้ ทำให้แผนG2GBETการเตรียมเปิดเรียนแบบOn-Site ได้รับผลกระทบไปด้วย
“นักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือเด็กในสังกัดรร.กทม. เป็นจำนวนมากยังไม่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ครบทุกคน ตามที่ผู้ปกครองและนักเรียนได้แสดงความยินยอมขอรับวัคซีน เป็นเรื่องเหนือการควบคุมของโรงเรียน เพราะอยู่ที่การจัดสรรของกทม.” แหล่งข่าวรายเดิมระบุ
สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้มาจากอาจารย์กรุงเทพมหานครรายหนึ่ง เผยกับ “ชัดเจนลึกออนไลน์” ว่า ในฐานะคุณครูกรุงเทพมหานครค่อนข้างจะไม่ค่อยสบายใจถ้าเกิดสถานศึกษาจำต้องเปิดภาคเรียนแบบOn-Site แต่ว่าเด็กนักเรียนยังมิได้รับวัคซีน ถ้าเกิดกำเนิดอะไรสังกัดผู้เรียน คนไหนกันแน่ควรจะรับผิดชอบ
Be the first to comment